banner
อังคาร ที่ 19 เดือน กันยายน พ.ศ.2560 แก้ไข admin

...แต่โอกาสนั้นมาไม่ถึง...และ...ไม่มีโอกาสถึงอีกแล้ว...

  “ ก่อนตาย...หนูขอมีบัตรประชาชนก่อนได้ไหม  ตายไปจะได้นอนตายตาหลับ “ 

คำพูดของ”ฟ้า”สะท้อนถึงความหวังอันสูงสุดของชีวิต

    “... เช้าของวันพุธที่ ๑๓ กันยายน  ๒๕๖๐ ครูบุ๋มได้รับข่าวร้ายว่า”ฟ้า”เสียชีวิตแล้วด้วยโรคไตวายเรื้อรัง  ครูรู้สึกเสียใจกับการจากไปของฟ้า...เพียงแต่...ฟ้าจะมีโอกาสได้รับการรักษาภาวะไตวายอย่างถูกวิธีจากโรงพยาบาลรัฐ ชีวิตของฟ้าก็คงไม่ปิดฉากลงที่อายุเพียงน้อยนิด    ครูขอให้ฟ้าไปสู่สุขคติ...”

     “ฟ้า”อายุเพียง ๓๙ ปี เธออาศัยอยู่ในชุมชนหลังวัดเทพลีลา  เธอดำรงชีพด้วยการเก็บศษขยะตามถังขยะ  นำมาคัดแยกแล้วไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าโดยมีรถมอเตอร์ไซด์พ่วงท้ายเป็นพาหนะ  เธอมีโรคประจำตัวหลายโรค...โรคไต...โรคเบาหวาน...โรคหัวใจ...คอยรบกวนร่างกายเธอตลอดเวลา  เนื่องเพราะแม่ของเธอไม่ได้แจ้งเกิดยามที่เธอลืมตาออกมาดูโลก ทำให้เธอหมดสิทธิหมดโอกาส...เรียน...กิน...อยู่...แม้กระทั่ง...สิทธิในการรักษาโรคร้ายที่กำลังคุกคามเธออยู่...

     “ฟ้า”เจ็บป่วยด้วยสารพัดโรค  แต่เงินประทังชีวิตวันๆก็ต้องหาเก็บจากถังขยะ  ยามปวดเจ็บร่างกายก็ไปซื้อยาชุดจากร้านขายยาทั่วไปเพราะไม่แพงเกินไปพอซื้อได้  แต่ในที่สุดร่างกายเธอก็ทรุดหนัก ยาชุดเอาไม่อยู่  ร่างกายเรียกร้องให้เธอต้องไปโรงพยาบาล 

     แต่”ฟ้า”จะทำอย่างไรดีนะ ในเมื่อเธอไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน   เธอจึงนำบัตรประจำตัวประชาชนของแม่ซึ่งต้องขังอยู่ในเรือนจำมาแสดงว่า...มีตัวตน...มีสิทธิรักษา...มีสิทธิได้รับสวัสดิการจากรัฐ  จะได้บรรเทาความเจ็บป่วยของเธอลงได้

     โรงพยาบาลตรวจพบว่าบัตรใบนั้นไม่ใช่ของ”ฟ้า”   นักสังคมสังเคราะห์ของโรงพยาบาลจึงประสานขอความช่วยเหลือมายัง”สถานีสัญชาติ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก” เพื่อทำการช่วยเหลือให้เธอมีสถานะบุคคล

ครูบุ๋มจึงดำเนินการช่วยเหลือสืบค้นประวัติ จนกระทั่งถึงขั้นตอนการตรวจDNAของ”ฟ้า”และของแม่ซึ่งกำลังต้องขังอยู่ในเรือนจำ  ผลออกมาทั้งสองมีDNA ตรงกัน  เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถนำมาใช้เพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ให้เธอได้

...”ฟ้า”จะมีบัตรประชาชนแล้ว...สามารถใช้สิทธิรักษากับหมอใหญ่ในโรงพยาบาลได้แล้ว...ฝันอันสูงสุดของ”ฟ้า”จะเป็นจริงแล้วซินะ...

...แต่...อนิจจา...โอกาสนั้นมาไม่ถึง...และไม่มีโอกาสถึงฝันนั้นแล้ว...ฟ้า...

                                                                                          เล่าโดย “ครูบุ๋ม”