banner
พุธ ที่ 4 เดือน มกราคม พ.ศ.2560 แก้ไข admin

เมื่อไร..แม่จะกลับมา



นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก


 ครูค่ะทำไมครูไม่รับโทรศัพท์พวกหนู  หนูโทรมาหลายครั้งแล้ว

          ต่อด้วยเสียงว่า “ครูค่ะพวกหนูอยากไปเยี่ยมแม่”

            หนูไปเยี่ยมได้ไหม ในวันหยุด 

          ครูตอบเสียงดังกลับไปว่า  ไม่ได้  เป็นวันหยุดเขาไม่อนุญาตเลย  เพราะตามหลักปฏิบัติคนต่างด้าวที่ถูกจับ ให้แค่ฝากสิ่งของไว้เท่านั้น ไม่มีโอกาสได้เยี่ยมหลอก  เป็นวันหยุดไม่อนุญาตเพราะเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น

          ครูค่ะพวกหนูคิดถึงแม่  คิดถึงน้อง

          พวกหนูอยากกอดแม่ อยากกอดหนู

          เอาอีกแล้วน้ำตาครูจะร่วงอีกแล้ว   เอาอย่างนี้ให้ครูประสานงานก่อนนะ

          ครูกำลังเร่งให้หน่วยงานรีบตรวจ DNA ตามหลักกฎหมายฉบับใหม่

ด้วยแม่เอาลูกออกมาขอทานบนถนน ถือว่าผิดกฎหมายควบคุมขอทาน  แต่เดิมนั้นหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายจะจับในข้อหาค้ามนุษย์ทันที  แล้วกระบวนการก็ยาว แต่ที่แน่คือมันละเมิดสิทธิมนุษยชนเพราะไม่ครบองค์ประกอบการค้ามนุษย์


บุคลากรที่ลงไปทำงานก็ใช้กฎหมายหลากหลายรูปแบบเหลือเกิน

แต่พอมาใช้กฎหมายฉบับใหม่ จะมีในอนุบัญญัติว่า บุพาการี หรือมีเด็กมาด้วยต้องตรวจ DNA ว่าเป็นแม่ลูก แล้วจึงจะส่งกลับประเทศต้นทาง

แต่กระบวนการครูไม่รู้ว่าจะใช้เวลา  พวกหนูอยู่กันเองได้ไหม

ครูค่ะ กว่าแม่กับน้องจะกลับมาอยู่กับพวกหนู เป็นครึ่งปีไหม

ครูตอบไม่ได้หรอก ขึ้นอยู่กับกระบวนการตามขั้นตอน

แม่กับน้องของพวกหนู ถูกจับไปนั้น ยังไม่ได้มีการกำหนดการตรวจ DNA ต้องรอเดือนต่อไป

โอ้แม่หนูกับน้องต้องอยู่ในนั้น รอไปอีกหรือครู

ใช่ อย่างไรก็ต้องคอยเพราะมันคือระเบียบพิสูจน์ความเป็นแม่ลูกกัน ไม่อย่างนั้นจะมีเอกสารอะไรมายืนยันว่า น้องทั้งสองคนของพวกเธอ คือลูกของแม่

เมื่อได้ตรวจแล้ว ต้องรอผลการพิสูจน์อีกนะกว่าหนึ่งเดือน

เมื่อได้ผลการตรวจแล้ว  ทางสถานคุ้มครองถึงจะส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  เขาถึงจะผลักดันกลับประเทศต้นทาง

แต่ตอนนี้มีการปรับปรุงการส่งกลับ เพื่อการลงบันทึกว่าถูกส่งกลับไปอีกครั้งแล้ว  ไม่อย่างนั้นต้องมีการเพิ่มการลงโทษ  ไม่ยอมเปลี่ยนอาชีพ

ครูค่ะ  ต้องใช้เวลากว่าสามเดือนในการจะกลับมาอยู่กับครอบครัว

แล้วพวกหนูกันเองแบบนี้หรือ  แล้วเรื่องการเรียน การสอบเข้าของพวกหนูใครจะจัดการให้

เด็ก เด็ก อย่ารุกยิ่งคำถามมากมายขนาดนี้ ครูไม่ใช่ผู้มีอำนาจในการบันดาลอะไรได้ทั้งหมด ครูเองก็ต้อง ค่อย ค่อย หาวิธีการให้พวกเธอได้รับประโยชน์สูงสุด  ให้แม่ครูมาอยู่ร่วมกันให้ได้  แต่ต้องใจเย็น เย็น  ในใจครูมันร้อนจะระเบิดอยู่แล้ว

ตอนนี้ค่าใช้จ่าย ค่าไปโรงเรียน ในช่วงที่แม่ไม่อยู่ พวกหนูต้องเรียนหนังสือต่อ  วันละ 20 บาท สามคน 60 บาท ต่อวัน ใช้กันอย่างประหยัด

ค่าอาหารครูช่วยพวกเธอวันละสองมื้อ วันละ 60 บาท

ค่าเรียนพิเศษของน้องคนที่สาม ค่าถุงเท้า ค่าอุปกรณ์การเรียน

ค่าเช่าห้อง เดือนละ 2,000 บาท ค่าน้ำ,ค่าไฟ อีกเดือนละ 1,500 บาท

กว่าแม่จะออกมาครูคงหมดเป็นหมื่นแน่  สงเคราะห์กันไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังนะ  ครูเองก็ต้องเสนอว่า ควรที่ต้องมีการตั้ง “กองทุนฉุกเฉิน”  เมื่อจับแม่ของพวกเขา ควรจะมี เงินช่วยเหลืออย่างไร เมื่อเด็กกำลังเรียนต่อ


ครูค่ะ พวกหนูอยากไปหาแม่อีกสักครั้ง  อย่างเพิ่งทำให้ครูลำบากใจเลย  รอครูก่อน  เพราะครูเองก็พยายามเร่งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกเรื่องจ๊ะ

ครูก็รู้ว่าพวกหนูลำบาก ต้องดูแลกันเอง

แต่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว  ก็ต้องช่วยกันดูแล  ขออย่างเดียว พวกเธอทุกคนห้ามออกไปเด็ดขาด  ไม่ใช่ครูบังคับ

แต่ครูพยายามให้พวกเธอ ได้รับโอกาสทางการศึกษา เรียนอย่างต่อเนื่อง  เพราะถ้าพวกเธอโดดจับไปกันอีก เรื่องใหญ่  เพราะทั้งพ่อและแม่ไม่อยู่ใครจะช่วยพวกเธอ ครูเองก็ไปรับรองพวกเธอไม่ได้นะ  เพราะครูเองจะเจอข้อหาให้ที่พักพิงคนต่างด้าว หนักเข้าไปอีก  ให้เวลาครูหน่อย

ครูค่ะ ในช่วงนี้พวกเราเอง สับสนคุยกันทุกวัน ทุกเวลา ไม่อย่าคิดมาก  พวกเราทุกพยายามทำใจกันมาก เอาแต่หมกตัวอยู่ห้องกันอย่างเดียว ไม่กล้าที่จะเปิดโทรทัศน์ดู เพราะกลัวค่าไฟจะขึ้น กลัวถูกตำรวจจับ กลัวเจ้าของห้องจะรู้ว่าแม่ไม่อยู่

ครูรู้ว่าพวกเธอทั้งเครียดและกลัว  แต่ช่วยกันหน่อยนะให้ผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ครูเอ็งก็หนักไม่แพ้พวกเธอหรอก ไหนจะค่าใช้จ่ายที่ต้องให้พวกเธอ เพื่อรอวันพ่อกับแม่กลับมา  เร่งหน่วยงานเขาจนจะกลายเป็นก้าวก่ายในหน้าที่ของพวกเขาอยู่แล้ว

แต่พวกเธอก็ต้องดูแลตนเอง  ช่วยเหลือตนเอง และประหยัดด้วย  เรื่องข้าวสารอาหารที่เอามาให้ก็ดัดแปลงดูแลกันนะ 

ครูค่ะ พี่สาวหนูเขาเครียดมาก อยากรู้คำตอบว่า “แม่กับน้องจะกลับมาเมื่อไร”

พวกเราทุกคนถึงเคยแยกกันอยู่ตอนเล็ก หลายปีมาแล้ว   ตอนนั้นพวกหนูเคยขายดอกไม้ ที่ซอยคาวบอย พวกเรายังไม่ได้เรียนหนังสือเพราะเคยเรียนตอนที่อยู่กัมพูชา  แต่พวกเราเรียนโรงเรียนไทยมาตั้งแต่เข้าเรียน

ในบรรดาพี่น้อง พี่สาวของหนูเป็นคนเดียวที่มีเลข 13 หลัก แต่ก็เป็นเด็กต่างด้าว  ซึ่งจะต้องจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว ยังไม่รู้ว่าอนาคตของพวกหนูจะเอาอย่างไร

ใจเย็นก่อนได้ไหม  ทุกอย่างมันต้องมีทางซิ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา

ครูรู้ว่าพวกเธอทั้งคิดหนัก คิดถึงร้อง สับสนวุ่นวายในใจ จะเอาอย่างไร 

เวลาเรานั่งคุยกันกับเด็กทั้งสี่คน เรานั่งรอบวงคุยกัน เปิดเผยซึ่งกันและกัน  แต่เดิมไม่มีโอกาสได้คุย แบบวงศาคณาญาติแบบนี้  ไม่เหมือนญาติก็เกือบจะญาติแล้ว

น้องคนที่สอง เธอต้องเสียสละเพื่อพี่น้องทุกคน  ครูเป็นลูกคนโตถูกแม่สอนต้องให้ดูแลน้อง  เธอก็เช่นเดียว ตอนนี้ไม่ใครอยู่ เธอต้องดูแลทุกคนต้องจัดการเงินที่มีใช้อย่างประหยัด ดูแลอาหารการกิน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ต้องสะอาด เก็บขยะให้เรียบร้อย ซักเสื้อผ้าของทุกคนตากราว

ตอนนี้พวกเราต้องตื่นกันตั้งแต่ ตีห้า  หุงข้าว พวกเราไม่มีหุงข้าวไฟฟ้า มันเสียมานานแล้ว  พวกเราใช้หม้อหุงข้าว(หม้อข้างในของหม้อไฟฟ้า)ใส่ข้าว ใส่น้ำ หุงแบบไม่เช็คน้ำ ตั้งบนเตาแก๊ส จนสุก

กับข้าวบางวันก็ต้มมาม่าใส่ไข่ที่ครูซื้อมาให้ บางวันก็ใส่ปลากระป๋อง  ตอนเช้าทั้งสี่คนกินด้วยกัน เหลือเอาไว้ให้มาที่สุดให้พี่ชาย ใส่ถ้วยเอาไว้ให้พร้อมข้าวสวยหนึ่งถ้วยใหญ่ ตอนกลางวันสามคนไปเรียนหนังสือ ค่าอาหารกลางวันยี่สิบบาทที่ได้จากครูเป็นค่าอาหารกลางวันที่โรงเรียน  พวกเราพยายามใช้เงินอย่างประหยัดค่ะ


ส่วนตอนเย็นพวกเราจะซื้อกำกับถุงหนึ่งถุงเท่านั้น  น้องคนที่สามชอบกินต้มมาม่าเป็นชีวิตจิตใจ  ก็จะสามคนกินข้าวกับแกงถุงบางวันก็เป็นผัดพริกแกง แกงป่าใส่หน่อไม้สด แกงส้ม มีพะโล้เป็นบางวัน   แล้วเราก็จะกินขนมคนละห่อที่ครูให้มา  

แล้วพวกเราก็จะทำการบ้าน ซึ่งพวกเราจะถึงบ้านเช่าประมาณหกโมงเย็น เพราะพวกเราเรียนพิเศษ  สำหรับหนูเองคนโตเรียนพิเศษเตรียมตัวสอบจบชั้นประถมศึกษาปีที่หก  สำหรับน้องคนที่สามเรียนพิเศษ สามวิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์  สำหรับน้องคนที่สี่ วิ่งเล่นรอพี่ทั้งสองคนเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน 

การกลับบ้านพร้อมกันเพื่อกลัวเรื่องใครจะหลอกไป หรือบางครั้งน้องคนที่สี่ก็ชอบซุกซนวิ่งไป-มา เล่นสนุกมาก  จนบางครั้งก็ไม่สนใจกินอาหาร บางครั้งน้องชอบมากคือการซื้อน้ำอัดลมดื่ม   พี่คนโตจะคอยเตือนน้องเสมอ

บางครั้งก็มีการทะเลาะกันบ้างเป็นครั้งคราว เวลาที่น้องดื้อ และไม่สนใจในการทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ  ชอบวิ่งเล่นจนถุงเท้าขาดหมดแล้ว  จนต้องขอครูซื้อถุงเท้า

พวกเราเองก็ไม่รู้จะขอบคุณครูอย่างไร ครูมาเยี่ยมทุกอาทิตย์มาจ่ายค่าใช้จ่ายหนูเกรงใจครูมาก

เริ่มกินข้าวเย็นกันประมาณทุ่มหนึ่ง  เมื่อกินเสร็จก็แบ่งหน้าที่กันทำ คนหนึ่งจะล้างจานชาม คนหนึ่งกวาดบ้าน ถูห้องที่พัก  คนหนึ่งปูที่นอนที่พวกเราห้องกันสี่คน  อีกคนก็จะต้องล้างห้องน้ำขัดห้องน้ำ เอาขยะไปทิ้ง  ส่วนมากงานนี้จะไม่ให้พี่ชายได้ทำเพราะเขาไปไหนไม่ถูก

พี่ชายคนโตน่าสงสารมาก ยิ่งแม่ไม่ได้อยู่บ้านแล้ว เพราะกลางวันเขาจะอยู่คนเดียว เหมือนพวกเราขังผู้ชายเอาไว้เลย  ต้องเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้

พี่ชายของพวกเรากินเก่งมาก แต่พูดกับใครไม่รู้เลย แต่เขามีกำลังมากในการขนข้าวของ  งานที่ยกของหนัก หนัก เขาทำได้หมดค่ะ

พวกเราเมื่อเสร็จงานก็จะอาบน้ำพร้อมซักเสื้อผ้าของตนเอง  พวกเรามีชุดนักเรียนคนละสองชุดเท่านั้น ต้องซักทุกวัน  การใช้น้ำก็ต้องประหยัด เพราะค่าน้ำแพงมาก  ยูนิตละ 18 บาท ค่าน้ำเดือนที่แล้วสูงถึง 758 บาท ใช้ด้วยกันสองห้อง  เขาเก็บห้องพวกเราไป 500 กว่าบาท  เดือนนี้ต้องช่วยครูประหยัดให้มากที่สุด

พวกเราจะเข้านอนกันประมาณสามทุ่ม พี่ชายก็ร้องจะดูทีวีอย่างเดียว พวกเราต้องช่วยกันพูด ประหยัดค่าไฟ ทางเปิดโทรทัศน์เสียงดัง ตำรวจจะมาจับ  ทางตำรวจจับพวกเราสามคนไปพี่จะอยู่กับใคร  เพราะฉะนั้นอย่าเปิดทีวีเลย นอนเอาแรงเถิด  พรุ่งนี้พวกน้อง น้อง จะได้ทำอาหารไว้ให้พี่ พวกเราจะได้ไปเรียนหนังสือ

บางคืนที่พวกเรานอนเรียงกัน สี่พี่น้องจะได้ยินเสียงร้องไห้น้องคนที่สามสอดออกมาจากผ้าห่ม เสียงสะอื้นแบบไม่ต้องการให้ใครได้ยิน  สุดท้ายพี่คนโตจะกลิ้งตัวมากอดน้องไว้กระซิบข้างหูว่าเดี๋ยวแม่ก็จะกลับมาแล้ว  พวกเราต้องอดทน สู้ ขยันเรียน อย่าเกเรเด็ดขาด  ให้แม่ภูมิใจพวกเรา

น้องก็ย้อนถามว่าไม่คิดถึงแม่กับน้องหรือ คิดถึงซิ ช่วงนี้มันก็สามสัปดาห์แล้วที่แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเรา  ใจเย็นครูสัญญาว่าจะรีบเร่งให้นะ  ทุกอย่างฝากความหวังไว้กับครูคนเดียว

บางครั้งตัวหนูเองก็เศร้าค่ะ  บอกไม่ถูก แต่ต้องตัวเข้มแข็ง  ต้องไม่อ่อนแอให้พี่และน้องเห็น  ต้องจัดการทุกอย่างให้ได้ ชีวิตมันต้องเดินต่อ  บางครั้งพวกเราต้องต่อสู้ในความคิดของตัวเอง

ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ พวกเราก็ต้องขังตัวเองกันเอาไว้ที่ห้องเช่า  เพราะกลัวตำรวจจับอย่างเดียว  เมื่อไรได้ใส่ชุดนักเรียนมันเหมือนเกราะกำบังพวกเรา

แต่พวกเราโหยหาอ้อมกอดของแม่ แก้มใส ใสของน้องชายและน้องสาว  เมื่อไรหน่วยงานเขาจะคืนแม่มาให้พวกเรา

พวกเราอยากได้แม่คืนมา