banner
ศุกร์ ที่ 15 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 แก้ไข admin

การกระทำ ที่เรียกว่า ....รัก

 

นางสาวทองพูล  บัวศรี

ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

 

          เสียงโทรศัพท์ดังติดๆกัน จนเรียกว่าถี่ แบบติดๆกันเลย  ครูเองเพิ่งกำลังเตรียมตัวอาบน้ำ  เพราะเช้านี้เตรียมคุยงานหลายเรื่องด้วยกัน  เพราะมีนักศึกษาขอลงงานพื้นที่ด้วย  เตรียมคุยจัดตารางการลงพื้นที่ ในสัปดาห์ต่อไป

          ว่างทุกอย่างแล้ววิ่งมารับโทรศัพท์   ครูคะ  หนูไม่ได้ไปโรงเรียนหลายวันแล้ว

          ทำไมหรือ...น้องฝน(นามสมมุติ)  แม่ถูกจับเมื่อวันตรุษจีน  ตอนนี้หนูต้องเลี้ยงน้องสองคนคะครู

อยู่กันอย่างไรมีกินไหม ...เอาอย่างนี้เดี๋ยวครูไปเยี่ยม  ครูกำลังประชุมอยู่

          ครูเองได้ข้าวมันไก่พร้อมขนมหวาน  มีพี่อีกคนบอกว่าจะไปเยี่ยมเด็ก พี่ยกข้าวพร้อมขนมหวานให้อีก 1 ชุด  ครูเดินหิ้วเพื่อมาหารถมาอนุสาวรีย์  มาต่อรถไฟฟ้าไปสำโรงทันที

          ระหว่างทางก็คิดหาทางออกไปตลอดเวลา ด้วยว่า น้องฝนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  น้องสอบได้ที่ 1 ประจำสายชั้น  ความอยากของครูคือให้รักษาอันดับเอาไว้  เพื่อทุนการศึกษาของเด็ก

          เมื่อไปถึงน้องชายวัฒนา  (นามสมมุติ)มาเปิดประตูตึกให้  ถามน้องวัฒนาหิวไหม  เด็กตอบเสียงดังว่าหิวมากๆ คะป้า...

          ห้องพักของเด็กๆ ซึ่งอยู่ด้วยกันห้าคนตามลำพัง  พี่สาวคนโต ไปโรงเรียน น้องที่สี่ ไปโรงเรียน  ห้องพักอยู่ชั้นสาม  เดินขึ้นบันไดแบบเหนื่อยคะ    แต่ใจที่คิดมากมายเหนื่อยกว่า

          เมื่อไปถึงห้อง น้องพิมตัวเล็ก ด้วยอายุ 2 ปี 7 เดือน ยังสื่อสารได้น้อยอยู่   นั่งมองหน้าป้า  ถึงแม้ป้าจะมี อาหารมาสองชุดก็ตาม   สายตาก็มองแบบตลอดเวลา

          จึงบอกน้องฝนว่า  เอาข้าวกับไก่ พร้อมมีลาบหมูที่ครูหิ้วมาให้น้องกินก่อน  เดี๋ยวครูนั่งทำงานไปด้วย  คือ ตามหาแม่ให้เจอก่อนว่าถูกจับไปที่ไหน

          น้องฝน จึงเอาข้าวเหนี่ยวบิดเป็นก้อนๆ พร้อมฉีกไก่ออกเป็นชิ้นเล็กๆ ป้อนน้องพิม   สำหรับน้องพิมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว เพราะความหิว    ช่วงเวลานั้นก็บ่ายสามโมงแล้ว




          น้องวัฒนาก็คงคอยไม่ไหว  ร้องไห้อยากกินข้าวเหนียวกับลาบหมู  ครูจึงบอกเอาชามมาแบ่งข้าวเหนียวออกมาอีกถุง  เปิดกล่องลาบเทให้  ใส่ข้าวเหนียว 1 ห่อ  หันมาอีกครั้งน้องวัฒนากินหมดเรียบร้อยแล้ว   บอกว่าอยากกินขนมที่ครูหิ้วมา   ต้องใส่น้ำแข็งแต่ตอนนี้ไม่มีน้ำแข็ง  แบ่งใส่ชามเดิม  น้องวัฒนา กินเรียบร้อยทุกอย่าง   แล้วน้องวัฒนาก็จ้องหน้าครูต่อ

          สำหรับน้องพิมกินไปก็แอบมองหน้าครูไปตลอด  น้องวัฒนาเมื่ออิ่มแล้ว  นั่งตาก็เริ่มจะปิด  เพราะตั้งแต่เช้ายังยอมนอน  จะขอเปิดโทรศัพท์  น้องฝนก็บอกว่าต้องประหยัด  เดี๋ยวไม่มีกินจ่ายค่าห้อง  ค่าไฟฟ้าเขาคิดยูนิตละ 20 บาท   สุดท้ายน้องวัฒนาก็มานั่งพิงหลังครู  ฟังครูคุยกับน้องฝน

          เมื่อภารกิจอาหารเข้าถึงเด็กทั้งสองคนเสร็จ  จึงบอกว่าน้องฝนกินข้าวก่อน  น้องฝนบอกว่ายังไม่กิน  อยากคุยกับครูก่อน   หนูอยากไปโรงเรียน แต่หนูก็ต้องดูแลน้องด้วย

          ให้น้องฝนเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น....

          วันตรุษจีน  แม่พร้อมน้องสองคนที่อยู่กับแม่  มีน้องจิน น้องฝน  ไปนั่งขอเงินที่สะพานลอยเพลินจิต  เพราะคิดว่าพอจะได้เงินเป็นค่าอาหาร ค่าเงินไปโรงเรียน  มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก ที่จะมีการแบ่งปันกัน

          ประมาณสี่ทุ่ม  ตำรวจสถานีลุมพินีก็มาถึงตัวแม่  ขอจับแม่  แม่จึงเรียกน้องฝนมารับน้องวัฒนา กับน้องพิม  ให้มาอยู่กันที่ห้อง พร้อมกับเอาเงินที่ซ่อนไว้ที่เต้านมให้ลูกมา หนึ่งพันบาท    แล้วสั่งน้องฝนว่าดูแลน้องให้ดี

          ฝ่ายตำรวจกับเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่าพรุ่งนี้ให้เอาน้องทั้งสองคนมาที่โรงพักด้วย   แต่แม่สั่งแบบเด็ดขาดว่าไม่ต้องเอามา  เพราะเอามาเขาจะส่งน้องทั้งสองคนไปสถานสงเคราะห์ทั้งสองแห่ง  น้องวัฒนา  อาจจะส่งไปที่สถานสงเคราะห์เด็กชายปากเกร็ด(บ้านภูมิเวท)   น้องพิมส่งไปที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท



          ความเด็ดเดี่ยวของแม่  เล่นเอา ห้าพี่น้องเดินคอตกกลับมาที่พัก  คืนนั้นโทรหาพ่อ เพิ่งจะไปทำงานเป็นยามที่ โกดังผลไม้ที่ จังหวัดระยอง    พ่อเองก็กลับมาไม่ได้เพราะเพิ่งจะทำงานได้วันที่สอง    ทุกอย่างมันไม่มีทางออกเลย  รายได้ของพ่อที่จะได้มานั้นเป็นค่าที่พักของครอบครัวที่ปลอดภัย  ซึ่งจะต้องเสียในวันที่ 15 ของเดือน   ค่าเช่าห้องคอยอยู่ประมาณ สามพันกว่าบาท

          สุดท้ายคืนนั้น ห้าพี่น้องก็หอบหิ้วนอนมาที่พักแล้วมานั่งปรึกษากันว่า ใครจะเป็นคนเลี้ยงน้องสองคน  ต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา

          พี่คนโต  เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2  กำลังใกล้สอบ และต้องแก้ไขสอบแก้ตัวถึง 4 วิชา ไม่อย่างนั้นติด “0” แน่นอน  จะทำให้เงินทุนที่จะได้ จะไม่ได้เพราะมีบางวิชาที่สอบไม่ผ่าน   คนพี่จึงไม่ได้แน่นอน

          น้องจินคนที่สี่  อายุ 9 ปี เรียน ป.3  แต่มีความซุกซน  ไม่อยู่นิ่ง   จะทะเลาะกับน้องวัฒนา  แต่รักน้องพิมได้   แต่มีความไม่นิ่ง  สรุปคือให้น้องจินไปเรียน  กลัวจะให้น้องคนอื่นร้องไห้ แล้วคนอื่นจะรำคาญ  แล้วถ้าใครไปแจ้งความ  ตำรวจมาค้นห้องก็จะหนักเข้าไปอีก

          หวยที่ออก จึงเป็นน้องฝนคนสวย  เป็นลูกคนกลางที่ดูแลน้องทั้งสองคนได้ เรียนหนังสือเก่งตามเพื่อนทัน  แต่ปัญหาคือขาดเรียนมาแล้ว 3 สัปดาห์เพราะแขนหักในช่วงเดือนธันวาคม   2561  ครูประจำชั้นก็คาดโทษไว้ ว่าอย่าขาดอีก   แต่น้องสองคนก็เอาไปเรียนด้วย ใครจะช่วยดูแล


          จึงช่วยกันหาทางออก   คือต้องหาแม่ให้เจอกก่อนว่า แม่ถูกจับส่งตัวไปที่ไหน

(1)เริ่มต้นครูจิ๋วโทรไปที่ศูนย์ปฏิบัติการขอทาน ว่าจับแม่จันดา (นามสมมุติ)ของเด็กไปหรือเปล่า  โทรไปแล้วเขาบอกว่าจะโทรกลับแล้วไม่รับสาย    จึงโทรหานักสังคมสงเคราะห์ ที่สถานคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี  บอกว่ามีแม่ลูกมาแค่สี่คน  แต่ไม่มี นางจันดา เข้ามา

(2)โทรหาองค์กรเพื่อน เพื่อน ประเทศไทย  ให้โทรตามว่ามีนางจันดา  ติดอยู่ที่สถานกักสวนพลู หรือเปล่า  ทางองค์กรก็ตามให้แต่ทุกคนที่เคยประสานงานได้ย้าย เปลี่ยนที่ทำงาน จนหมดเวลาราชการ

(3)ครูก็เริ่มต้นการหาเบอร์โทรศัพท์ ที่ สน.สวนลุมพินี  เมื่อโทรไปถึงเขาก็บอกว่าหมดเวลาราชการ  ต้องติดต่อเวลาราชการเท่านั้น   ทุกคนก็ต้องการเวลาเหมือนกัน

สรุปแล้วน้องฝนกับครู มองหน้ากัน  เจ้าวัฒนานั่งพิงหน้าครูหลับไปเรียบร้อย จึงอุ้มไปนอนที่ตากพัดลมได้  ส่วนน้องพิมนั่งที่ตักน้องฝน

ครูจึงมีทางออกอีกอย่างหนึ่ง  เอาสองคนไปอยู่กับน้องสาว ครูก่อนที่อยุธยา  เมื่อแม่ออกมาแล้วก็ไปรับกลับมา  น้องฝนจะได้ไปเรียนหนังสือได้....ครูเองก็กังวลเรื่องการขาดเรียน และกลัวไม่ได้สอบ  ห่วงไปหมด   เด็กน้อยสองคนจะจ้างคนแถวนั้นเลี้ยงก็กลัวเรื่องการถูกจับ  หรือแจ้งความจะเป็นเรื่องใหญ่ว่าไม่มีคนดูแล

น้องวัฒนานอนหลับก็จริง แต่เหมือนนอนฟัง  ลุกทะลึ่งขึ้นมา บอกว่าไปอยู่กับครู    ด้วยน้องวัฒนา รับรู้ว่าไปกับครูน้องวัฒนาจะอิ่ม  มีขนมกินตลอดเวลา   เพราะเวลาที่น้องวัฒนาอยู่กับแม่ตอนที่ต้องรับการคุ้มครองสวัสดิภาพ  ครูไปเยี่ยมจะมีขนมจำนวนมากไปเยี่ยม  จึงบอกกับอยากไปอยู่กับครู  และพร้อมจะลุกไปเก็บเสื้อผ้าด้วยซ้ำ

น้องฝนก็หันไปหา น้องพิม  ร้องไห้กระซิก กระซิก   แล้วบอกกับน้องฝน  ไม่ไป รอแม่จ๋ากลับมา  รอแม่จ๋า   รอแม่จ๋า  รอแม่จ๋า    สุดท้ายน้องพิมก็หลับบนตักน้องฝน

เมื่อคุยกันแล้วหาทางออกไม่ได้  ครูเองก็กลับมา แต่ใจหดหู่   ถึงจะบอกกับตัวเองว่าทำดีที่สุดแล้วก็ตาม   ภาพเด็กเลี้ยงเด็ก  มันย้อนเหมือนกับครอบครัวตัวเอง  มันอยู่ในเงาของครอบครัวนี้

กลับมาถึงที่ทำงานก็เปิดข้าวสาร  มาม่า น้ำปลา น้ำมัน ไข่  ขนม เครื่องใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน  เตรียมลงไปเยี่ยมอีกครั้ง ในวันเสาร์    เด็กเลี้ยงเด็กก็ต้องปล่อยไปก่อน

แต่สำหรับครูก็เพียรโทรประสานงานกับทุกฝ่าย จึงรู้ว่าแม่ของเด็กทั้งห้าคน อยู่ที่สถานกักสวนพลู  เพราะส่งตัวไปตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 แล้ว  จึงบอกเด็กๆดูแลกันไปก่อนนะ

วันนี้ วันแห่งความรัก   ไปเยี่ยมแต่เช้า  พบน้องฝนแต่งตัวไปเรียน  พี่คนโต เลี้ยงน้อง เพราะวันนี้ครูประจำชั้นโทรมาบอกว่ามีสอบเก็บคะแนน   แต่สำหรับ น้องวัฒนา ตื่นเต้นเมื่อเจอหมูปิ้งจำนวน 25 ไม้ พร้อมข้าวเหนียว น้องวัฒนาลุยก่อนคนอื่น...

น้องพิม ตื่นเต้น  บอกว่าขนมป้า หมูปิ้งป้า อร่อยที่สุดในสามโลก   เพราะแม่โทรมาบอกว่ากำลังเดินทางมาที่ห้องพัก   เด็กทั้งหมดดูสดชื่น  ดูมีกำลังใจ ใส่เสื้อผ้าไปโรงเรียน น้องจินกับน้องฝน

น้องวัฒนา น้องพิม  พี่คนโต รอแม่กลับมา

สำหรับครูเองเช้านี้มันเป็นความรัก...ที่เกิดจากการกระทำ  ครูเองก็ยิ้มได้สำหรับครอบครัวนี้  ถึงแม้กรณีศึกษาหลายกรณีที่ไม่สำเร็จเลย   แต่มันวันแห่งความรักที่ครูเอง  เป็นความรักที่เกิดจากการดูแลกันในครอบครัว  ที่ประคับประคองความรัก....ของครอบครัว